วิธีหาบั๊ก เสมือนหนึ่ง จับกิ๊กแฟน

? โปรแกรมยิ่งเขียน ยิ่งมีบั๊ก (Bug)
แล้วที่นี้เราจะค้นหามัน ประดุจหนึ่งจับกิ๊กแฟนได้อย่างไร
มาม่ะ เดี่ยวบทความนี้จะบอกว่าวิธี How to กัน
.
? 1) ง่ายสุด คือจับโกหกแฟน
เวลาเราอยู่กับแฟน ก็ต้องหมั่นสังเกตแฟนให้ดีๆ
เมื่ออีกฝ่ายโกหก ภาษากายจะออกมาทางใบหน้า หรือกิริยาท่าทาง
.
การเขียนโปรแกรมก็เช่นเดียวกันครับผม
โดยเฉพาะบั๊ก ที่ทำให้โปรแกรมมันตาย
เพื่อนๆ เชื่อดิ ตัวแปลภาษา หรือตอนโปรแกรมกำลัง Run
มันแทบจะแจ้ง error บอกสาเหตุของโปรแกรมที่พัง
รวมทั้งชี้เป้าบรรทัดที่เกิดเหตุว่าอยู่ส่วนไหนของโค้ด
.
ถ้าเราใส่ใจเหมือนจับโกหกแฟน
โปรดอ่านสักนิดหนึ่ง ก็จะค้นหาบั๊กได้ไม่ยาก
แต่ถ้า error ที่แทบจะทิ่มตาอยู่แล้ว เราละเลยไม่ยอมอ่าน
ก็จะหาบั๊กไม่ได้ครับผม เหมือนแฟนโกหกอะไรมา
เราก็โลกสวยเกิ๊น แล้วอยากนี้จะจับผิดได้ยังไง
.
??? 2) ถ้าวิธี 1 จับโกหกแล้วแฟนตีเนียน ไม่มีพิรุธ
ก็ลองมาตามติดแฟนทุกฝีเก้าแทนซิ
.
ชีวิตสมัยนี้การตามติด ไล่เช็กแฟนได้ง่ายมาก และหลายวิธีด้วย
เช่น โทรถามหามันอยู่ไหน ลองวีดีโอคอลหามันดู
แอบส่งว่ามันเช็คอินที่ไหน แอบดูในมือถือ ดูสลิปกดเงิน วิธีโน่นนี้นั่นเยอะมากมาย
.
ในการเขียนโปรแกรมก็เช่นกัน บางทีอ่าน error ก็ยังหาบั๊กไม่ได้เนอะ
อาจต้องลงทุนตามติดการทำงานโปรแกรม
ด้วยการปริ๊น log ไฟล์ออกมา
ไม่ว่าจะเป็น log ของเราที่เขียนเอง
หรือ log ของเซิร์ฟเวอร์ก็ตามทีเถอะ
.
พยายามปริ๊นเท่าที่จะทำได้
แล้วอ่านวิเคราะห์จาก log ก็จะช่วยหาบั๊กได้อีกแรง
แน่นอนวิธีนี้เราอาจต้องเขียน log จนเหมื่อยมือ
ไม่ต่างกับการตามติดแฟนทุกฝีก้าว
บางทีก็เหนื่อย แต่ทำไงได้ ถ้ามันช่วยจับผิดได้
.
? 3) ถ้าเจอแฟนระดับเทพเกิน ข้อ 1 กับ 2 ยังไงก็จับไม่ได้
งั้นเปลี่ยนไปพึ่งนักสืบหากิ๊กแล้วกัน
ให้เขาตามติดแฟนเราทุกฝีก้าว
แล้วรายงานข้อมูลแฟนอย่างละเอียด ว่าอยู่ที่ไหน ทำอะไร กินข้าวกับใคร เป็นต้น
.
การเขียนโปรแกรมก็เช่นเดียวกันครับ
เมื่อเจอบั๊กขั้นเทพ หลบซ่อนเก่งจัง
ก็คงต้องใช้ debug เปรียบเสมือนนักสืบหากิ๊ก
มันเป็นเครื่องมือของทุกภาษา ที่จะตามติดการทำงานของโปรแกรมทุกฝีก้าว
สามารถหยุดดูโปรแกรมทำงานเมื่อไรก็ได้ แล้วดูข้อมูลของตัวแปรในเวลานั้นเลย
คิดอะไรไม่ออก debug คือท่าไม้ตายช่วยหาบั๊กที่น่าทึ่ง
ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินจ้างนักสืบตามจับกิ๊กแฟนด้วย
.

? 4) สำหรับข้อ 1, 2, 3 บางคนก็ขี้เกียจทำ
งั้นก็ลองใช้วิธีง่ายสุดนี้ดู ?ก็คือการเปรียบเทียบ
.
ลองเปรียบเทียบแฟนเราเมื่อก่อนกับปัจุบันดูดิ
เช่น เมื่อก่อนตัวเองโทรหาเค้าทุกวัน ทำไมเดี่ยวนี้ตัวเองเปลี่ยนไป
เมื่อก่อนชอบชวนเค้าไปกินข้าวบ่อยๆ แต่เดี่ยวนี้ตัวเองอ้างว่าทำแต่งาน
อันนี้เขาเรียกว่า comparative thinking
เป็นการใช้ความคิดเชิงเปรียบเทียบ ในการจับผิดแฟน
.
การเขียนโปรแกรมก็เช่นเดียว เราสามารถหาบั๊ก
โดยไม่ต้องลงมืองมหาในโค้ดก็ได้ แค่ใช้ “ความคิดเชิงเปรียบเทียบ”
เช่น สมมติวันนี้โปรแกรมเรา error ใช้การไม่ได้ ทั้งที่เมื่อวานยังทำงานได้เลย
เราก็อาจลองเปรียบเทียบเมื่อวานนี้กับวันนี้ มันต่างกันอย่างไร
.
เช่น เราเพิ่งเปลี่ยนคอนฟิค หรือเพิ่งแก้โค้ดบรรทัดนี้ไป หรือเราเพิ่งแก้ฐานข้อมูล เป็นต้น
ลองเปรียบเทียบดูว่ามันมีเหตุการณ์อะไรต่างกัน อย่างไร
วิธีนี้จะช่วยลดขั้นตอนหาบั๊ก โดยไม่ต้องงมโค้ดให้เยอะแบบหวานแห
เพราะบางทีสาเหตุที่เกิด อาจไม่ใช่ที่โค้ดเราก็เป็นได้
.
? 5) จับกิ๊กแฟนมันเหนื่อยนะ
การอยู่เฉยๆ นี้แหละ ไม่ต้องไปตามสืบ ตามจับผิดหรอก
เดี่ยวเราก็จะรู้แจ้งว่าแฟนมีกิ๊กซะงั้น
เช่น ฝันเห็นเอง หมอดูมาบอก มีคนมาบอก แฟนอยู่ดีๆ มาสารภาพเอง กิ๊กมาบอกเอง เป็นต้น
.
การเขียนโปรแกรม มันจะมีห้วงเวลาหาบั๊ก หาเท่าไรไม่เจอสักที
งมทั้งวัน จนคุณรู้สึกท้อ งั้นก็หยุดหาซะทีเถอะ พอกันที?
ไปผ่อนคลาย นั่งดูทีวี เดินเล่น อาบน้ำ นั่งถ่ายปลดทุกข์ นอนหลับซะงีบ เป็นต้น
เพราะความคิดดีๆ มักจะปิ๊งแว็บ ในห้วงเวลาสมองเราผ่อนคลายที่สุด
ทำให้รู้ว่าโปรแกรมเรามันผิดตรงไหน ค้นหาบั๊กได้ชนิดคาดไม่ถึง เชื่อผมดิ
.
? สุดท้ายก็หวังว่า 5 ข้อจะเป็นวิธี How to หาบั๊กได้อีกแรงนะครับ
แต่ลืมบอกไปมีกิ๊กในชีวิตจริงไม่ดีหรอกครับ ?????????
มันผิดศีลธรรม ทำให้คนรักเสียใจ
ทว่าการมีบั๊กในซอฟต์แวร์ เป็นเรื่องปกติ
อย่าไปกลัวมัน ยิ่งมีมัน เรายิ่งมีงานให้ทำครับผม
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านนะครับ
.

 เขียนโดยแอดมินโฮ โอน้อยออก

Please like Fanpage