รู้หรือไม่ว่าปัจจุบันนี้ เราสามารถนำ DNA แค่ 1 กรัม ไปเก็บข้อมูลได้ถึง 215 เพตาไบต์ (petabyte) หรือราว 215 ล้านกิกะไบต์ (million gigabytes)?
??คราวนี้จะลองมาดูวิธีการเก็ บข้อมูลลง DNA กัน
ตั้งแต่ปี 2012 นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มเก็บ
แต่วิธีนี้ยังไม่มีประสิทธิ
??ถึงแม้ว่าจะมีวิธีการที่ดีก
??ทว่างานวิจัยล่าสุดใหม่เอี่
1) อันดับแรกเริ่มจากแปลงไฟล์ด
2) ทำการบีบอัดมันลงไปในไฟล์ฉบ
3) จากนั้นก็แยกไฟล์ข้อมูลนั้น
3) ใส่ชิ้นส่วนดังกล่าวลงไปในส
4) สุดท้ายก็ประกอบมันกลับคืนม
ซึ่งกระบวนดังกล่าวนี้ เป็นอัลกอริทึมใหม่ที่เรียก
??ส่วนการถอดรหัส นักวิจัยจะใช้เทคโนโลยีใหม่
1) เมื่อลำดับของ DNA ถูกป้อนเข้าสู่คอมพิวเตอร์
2) ก็จะถูกแปลงรหัสทางพันธุกรร
??วิธีการใหม่นี้ถือว่ายอดเยี
– ไฟล์ที่ได้ไม่มี error
– ยิ่งกว่านั้นไม่มีข้อจำกัด ในเง่จำนวนการก็อปปี้ข้อมูล
– ทำให้นักวิจัยสามารถเข้ารหั
??ซึ่งข้อดีของการใช้ DNA เก็บข้อมูลในรูปดิจิตอลนั้น
– มีขนาดกะทัดรัด พกพาง๊ายง่าย
– สามารถอยู่ได้นับร้อย นับพันปี
– DNA จะไม่เสื่อมลงตามกาลเวลาเหม
– แถมวิธีการเก็บข้อมูลที่ยาว
??เมื่อมาดูต้นทุนของเทคโนโลย
1) ต้นทุนการสังเคราะห์ข้อมูล 2 เมกะไบต์ (megabytes) ก็คือ $7,000 (ต้นทุนเขียนข้อมูล)
2) ถ้าจะอ่านข้อมูล ต้นทุนคือ $2,000
โดยต้นทุนจะลดลงเมื่อกาลเวล
+++++ แหล่งที่มา ++++++
https://en.wikipedia.org/
https://www.facebook.com/
เขียนโดย แอดมินโฮ โอน้อยออก