?? การันตีได้ว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด
เวลานั่งแก้ปัญหาอะไรตั้งนาน
แบบคิดจนสมองจะระเบิด ก็คิดไม่ออกซะที
เช่น การเขียนโปรแกรม แล้วติดบั๊ก ติด error
.
แต่พอเราลืมเรื่องนั้นไปซะ!
เปลี่ยนไปอาบน้ำ ดูทีวี เดินเล่นสวีตกับแฟน
อยู่ดีๆ ดันปิ๊งแว็บคิดแก้ปัญหานั้นออกมาได้ซะงั้น
:
:
จะบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เป็นโรคนี้
คนทั่วโลกก็เป็นเช่นเดียวกับคุณ
:
ถ้าเราจะเข้าใจอาการพวกนี้
ต้องใช้วิทยาศาสตร์ด้านสมองมาอธิบายโดยตรง
ตามทฤษฏี สมองมนุษย์มีการเรียนรู้อยู่ 2 โหมด ได้แก่
“โหมดเซียน” กับ “โหมด 9 หาง”
…อ้าวผิดเรื่อง …อันนั้นมัน นารูโตะ
.
การเรียนรู้สมองมี 2 โหมดได้แก่
? 1) โหมด FOCUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังโฟกัส
หรือมีสมาธิเพื่อคิดทำบางสิ่งบางอย่างอยู่
โหมดนี้ สมองจะใช้แนวทางเดิมๆ เพื่อแก้ปัญหา
ทำให้เรามุ่งมั่นหาทางแก้ปัญา หรือพยายามค้นหาปัญหาให้ได้โดยไว
.
? ข้อดี ทำให้เรามีสมาธิ มุ่งที่จะบรรลุงานนั้นๆ ให้สำเสร็จโดยไว
เช่น กำลังเขียนโปรแกรมอยู่ ต้องโฟกัส จดจ่อเพื่อให้งานเสร็จ
.
? ข้อเสีย จะเกิดการวนลูปทางความคิด
เช่น ตอนเจอบั๊กในโปรแกรม
เราก็จะวนลูป ใช้วิธีเดิมแก้ไปหาซ้ำๆ อยู่นั้นแหละ
พยายามกดคีย์บอร์ดด้วยวิธีการเดิมๆ
จนนิ้วจะแทงทะลุแป้นพิมพ์อยู่แล้ว
ก็แก้บั๊กไม่ได้เสียที …จนอยากร้องไห้
.
ที่เป็นเยี่ยงนี้ก็เพราะสมองไม่ยอมมองหาทางออก
ไม่ออกจากกรอบคิดแบบเดิมๆ นั่นเองครับ
นับเป็นข้อเสียของสมองโหมดนี้
.
? 2) โหมดที่สองคือ โหมด DIFFUSED
เป็นโหมดของสมองที่กำลังคิด
เมื่ออยู่ในภาวะผ่อนคลาย หรือพักผ่อน
เช่นตอนที่เราเดินเล่น ขับรถ ฟังเพลง อาบน้ำ เข้าส้วม หรือกระทั่งนอนหลับ ฯลฯ เป็นต้น
.
ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงตอนที่เราติดปัญหาอะไรซะอย่าง
พอหัวเราจะแตะถึงหมอนอยู่แล้ว ดันคิดออกมาได้เฉยเลย
หรือบ่อยครั้งที่นอนหลับไป
พอตื่นขึ้นมาหา ไอเดียแก้ปัญหาดันปิ้งแว็บออกมา
.
? ข้อดี โหมดนี้เอาไว้ใช้แก้ปัญหาที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน หรือยากที่จะเข้าใจ
สามารถใช้คิดพวกไอเดีย หรือคอนเซ็ป ความคิดสร้างสรรค์แปลกๆ ใหม่ๆ ทำให้เราคิดนอกกรอบเดิมได้
.
เช่น ช่วยหาทางแก้บั๊กในโปรแกรม
ในมุมหนึ่งที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อน
ช่วยให้แหกกฏเกณฑ์เดิมที่เราติดปัญหาอยู่ได้
.
? ข้อเสีย โหมดนี้มันทำงานเมื่อเราผ่อนคลาย
เช่น โปรแกรมเมอร์ตอนกลางวัน
แก้บั๊กแทบตายทั้งวัน แก้ไม่ได้สักที
พอเลิกงานกลับบ้านปุ๊บ
กำลังจะงีบหลับ ดันคิดออกมาได้ …โธ่ชีวิต
.
หรือบางคนมีสกิลพิเศษ แก้บั๊กในความฝันได้
จนต้องสะดุ้งตื่น
จากโปรแกรมเมอร์ กลายร่างเป็นนกฮูก
ไม่ยอมหลับยอมนอน เขียนโปรแกรมจนเสร็จ
:
:
+++++++++++++++++++
ถ้าเราเข้าใจคอนเซปต์ของสมอง 2 โหมดนี้ละก็
– ตอนแก้ปัญหาไม่ออกก็สลับไปใช้ โหมด DIFFUSED ซะ
– เมื่อได้ไอเดียมาแล้ว ก็สลับไปใช้โหมด FOCUSED ต่อ
:
แต่ทั้งนี้เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่า
มนุษย์โลกทุกคนไม่สามารถใช้ 2 โหมดนี้ได้พร้อมกัน …เศร้า
ต้องเลือกระหว่างโหมด FOCUSED หรือโหมด DIFFUSED
เลือกให้ทำงานโหมดใดโหมดหนึ่งเท่านั้น
:
ดังนั้นเราต้องหัดสลับสมอง 2 โหมดให้เป็นนะครับ
:
ซึ่งวิธีสลับโหมดของสมอง
มันมีประโยชน์ตอนทำงาน
หรือจะตอนอ่านหนังสือสอบก็ได้
.
วิธีสลับโหมด ผมขอเสนอ 2 วิธีแล้วกัน
? 1) ใช้เทคนิคคือ “Pomodoro Technique”
คือให้ทำงานไป 25 นาที (โหมด FOCUSED)
แล้วผ่อนคลายอีก 5 นาที (DIFFUSED)
.
แต่วิธีนี้อาจไม่เหมาะ ตอนเอาไปใช้ในทำงานจริงเท่าไร
…เพราะถ้าหัวหน้างานเห็นเราทำแบบนี้
คงคิดว่าเราอู้งาน ทำไป หยุดไป
เราอาจดัดแปลง ทำไปได้สักชั่วโมง สองชั่วโมง
เมื่อสมองล้า ก็พักเบรกเสียบ้าง จิบกลางแฟ แชทคุยกับแฟน
เล่นเกมคลายเครียด เดินยืดเส้นยือดสาย เข้าไปนั่งในส้วมเล่นๆ
ทำสัก 5-10 นาที พอ
…แต่ทั้งนี้หัวหน้างานต้องเข้าใจนะ ว่าเรากำลังผ่อนคลาย
…เป็นเทคนิคการคิดงานโดยใช้สมองโหมด DIFFUSED
.
? 2) หรือเราจะปล่อยให้คิดงานทั้งวันไปเลย
แล้วถ้าพระอาทิตย์ตกดิน ยังคิดไม่ออกละก็
อย่าไปซีเรียส ให้กลับบ้านเข้านอนโดยไว
เพื่อให้สมองเข้าสู่โหมด DIFFUSED โดยธรรมชาติ
เป็นการรีเซทความคิดใหม่ พอตื่นขึ้นมาสมองโล่งคิดออก
รุ่งเช้าค่อยกลับมาเข้าโหมด FOCUSED เพื่อทำงานต่อไป
:
:
.
++++
อ้างอิง
https://staciechoice1010.wordpress.com/2014/08/08/focused-vs-diffused-mode/
https://www.themetalearners.com/how-to-utilize-both-brains-thinking-modes-focused-vs-diffuse/
https://www.instructables.com/id/Learning-How-to-Learn/
?เขียนโดยแอดมินโฮ โอน้อยออก
Please like Fanpage